การขอความช่วยเหลือทางด้านกฎหมายจากรัฐ (Gesubsidieerde Rechtsbijstand หรือ Toevoeging)
เรียบเรียงโดย วัชรี กสิบาล (W.Kasiban)
บรรณาธิการ เยาวลักษณ์ วงศ์สุวรรณ (Y. Wongsuwan)
คนไทยที่ย้ายมาอยู่ประเทศเนเธอร์แลนด์ เมื่ออยู่ไปได้สักระยะหนึ่ง บางส่วนก็อาจประสบปัญหาทางด้านกฎหมายต่างๆ เช่น ถูกคู่สมรสขอหย่า ฟ้องหย่าคู่สมรส ถูกไล่ออกจากงานอย่างไม่เป็นธรรม หรือปัญหาที่เกิดจากการไม่ได้รับความเป็นธรรมในการบริโภคสินค้า หรือการใช้บริการ เป็นต้น – ปัญหาเหล่านี้ ต้องใช้ขั้นตอนทางกระบวนการยุติธรรมของเนเธอร์แลนด์ในการตัดสิน รวมถึงต้องมีค่าใช้จ่ายในการดำเนินการด้วย — บทความนี้ จึงมีวัตถุประสงค์ที่จะเผยแพร่สิทธิขั้นพื้นฐานกรณีคนไทยที่มีรายได้น้อย เกิดต้องประสบปัญหาทางด้านกฎหมายในประเทศเนเธอร์แลนด์ เพื่อให้สามารถเข้าถึงการให้บริการทางด้านกฎหมายจากรัฐได้
การขอความช่วยเหลือทางด้านกฎหมายจากรัฐ (Gesubsidieerde Rechtsbijstand หรือ toevoeging) คือ การที่รัฐจัดหาบุคลากรให้คำปรึกษาแนะนำด้านกฏหมาย หรือจัดสรรทรัพยากรในการดำเนินกระบวนการตามกฏหมาย ทั้งนี้รวมถึงการจัดสรรเงินช่วยเหลือบางส่วนให้ตามเกณฑ์รายได้เพื่อเป็นค่าธรรมเนียมทนายความ ศาล หรือผู้ไกล่เกลี่ย (mediator) หรือล่าม ในการแก้ไขปัญหาด้านกฎหมายให้แก่ประชาชนผู้มีรายได้ต่ำทั่วไป สิทธินี้ถือเป็นสิทธิขั้นพื้นฐานของประชาชนทุกคนตามที่ได้บัญญัติไว้ในรัฐธรรมนูญของประเทศเนเธอร์แลนด์ – ผู้ที่ได้รับความช่วยเหลือทางด้านกฎหมายจากรัฐในรูปของเงินช่วยเหลือค่าธรรมเนียม (toevoeging) นี้ จะต้องเป็นผู้มีรายได้ต่ำกว่าเกณฑ์ — แต่เงินช่วยเหลือนี้ ไม่ได้ครอบคลุมค่าใช้จ่ายทางด้านกฎหมายทั้งหมด คุณจะต้องจ่ายค่าสมทบเองด้วยบางส่วน และเงินช่วยเหลือนี้จะไม่มีการส่งให้คุณโดยตรง หากแต่จะมีการจ่ายให้แก่บุคคลหรือองค์กรที่ให้ความช่วยเหลือด้านกฏหมายแก่คุณโดยตรง ข้อมูลเกี่ยวกับค่าสมทบของคุณว่ามากน้อยเท่าไหร่นั้น คุณสามารถดูได้ในตารางด้านล่างของบทความนี้ หรือตามลิงค์นี้
ปัญหาทางด้านกฎหมายที่สามารถขอความช่วยเหลือจากรัฐได้นั้น มีได้หลากหลาย เช่น ๑) ปัญหาเรื่องของการหย่า ๒)สิทธิผู้บริโภค การได้รับบริการที่ไม่เป็นไปตามที่ตกลงกันไว้ ๓) ปัญหากับการทำงานของหน่วยงานของรัฐ ๔) ปัญหาเรื่องที่อยู่อาศัย เรื่องค่าเช่าต่างๆ ๕) การถูกไล่ออกจากงานอย่างไม่เป็นธรรม หรือการลบเลี่ยงการต่อสัญญาว่าจ้างงานตามกฏหมายกำหนด ๖) เรื่องหนี้สิน ๗) หรือปัญหาอื่นๆ
ข้อควรปฏิบัติเมื่อมีปัญหาทางด้านกฎหมาย
เมื่อมีปัญหาทางด้านกฎหมายเกิดขึ้น สิ่งแรกที่ควรทำคือพยายามแก้ปัญหาด้วยการเจรจาหาทางออกร่วมกันทั้งสองฝ่าย แต่หากถึงที่สุดแล้วไม่สามารถตกลงกันได้ คุณสามารถขอคำปรึกษาจาก “Het Juridisch Loket” ใกล้บ้านได้ หน่วยงานนี้จะให้คำแนะนำวิธีการแก้ปัญหา เช่น บางปัญหาต้องการคนกลางเข้ามาช่วยไกล่เกลี่ย หรือบางปัญหาอาจจะต้องใช้ทนาย เป็นต้น Het Juridisch Loket เป็นหน่วยงานให้คำปรึกษาแนะนำเบื้องต้นทางด้านกฏหมายเท่านั้น หน่วยงานนี้จะให้ข้อมูลแก่ผู้เกี่ยวข้องในการดำเนินงานตามลำดับขั้นต่อไป ข้อดีของการขอความช่วยเหลือผ่าน Het Juridisch Loket คือ
๑)ไม่มีค่าใช้จ่ายในการปรึกษาแนะนำเบื้องต้น
๒) กรณีคุณได้รับการส่งต่อจาก Het Juridisch Loket ไปยังทนายหรือผู้ไกล่เกลี่ย เพื่อการดำเนินงานขั้นต่อไป คุณจะได้รับส่วนลด 53 ยูโร สำหรับค่าสมทบส่วนตัวของคุณ และในการส่งเรื่องของคุณต่อไปยังองค์กรหรือบุคคลอื่นนั้น คุณจะได้รับเอกสารที่เรียกว่า ‘diagnosedocument’ จาก Het Juridisch Loket
การแก้ปัญหาทางด้านกฎหมายที่จำเป็นต้องใช้ทนายความ ผู้ไกล่เกลี่ย หรือล่าม จะมีค่าใช้จ่ายค่อนข้างสูง และหากผู้ประสบปัญหามีรายได้ไม่เพียงพอที่จะจ่ายค่าใช้จ่ายเหล่านี้ได้ ก็สามารถขอความช่วยเหลือทางด้านกฎหมายจากรัฐได้ (rechtsbijstand) ซึ่งการขอความช่วยเหลือทางด้านกฏหมายจากรัฐนี้ ผู้ขอไม่สามารถยื่นได้ด้วยตัวเอง หากแต่ต้องยื่นผ่านทนายความ หรือผู้ไกล่เกลี่ย ดังนั้นหากประสบปัญหาทางด้านกฎหมาย ผู้ประสบปัญหาจะต้องอธิบายปัญหาและเอ่ยถึงเรื่องการขอความช่วยเหลือจากรัฐตั้งแต่ครั้งแรกที่คุยกับทนายหรือผู้ไกล่เกลี่ย
ประเภทของความช่วยเหลือทางด้านกฎหมายจากรัฐ
๑. การให้คำแนะนำทางด้านกฎหมาย การชี้แนะทางด้านกฎหมาย ซึ่งสามารถอ่านเพิ่มเติมได้ที่ เว็บไซต์ Rechtwijzer.nl
๒. Lichte Advies Toevoeging (LAT) คือการขอเงินช่วยเหลือบางส่วนจากรัฐในการจ่ายค่าทนายความ (Advocaat) โดยการขอความช่วยเหลือในประเภทนี้ จะเป็นเรื่องทางกฎหมายที่ไม่ซับซ้อน ทนายความสามารถใช้เวลาดำเนินการได้จนเสร็จสิ้นภายในเวลาไม่เกิน 3 ชั่วโมง สำหรับข้อพิพาทเกี่ยวเนื่องจำนวนเงินหรือค่าเสียหายไม่ต่ำกว่า 250 ยูโร อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่
๓. ผู้ไกล่เกลี่ย / การไกล่เกลี่ย (Mediation) คุณสามารถใช้สิทธิขอเงินช่วยเหลือบางส่วนจากรัฐในการจ่ายค่าธรรมเนียมคนกลางได้ – ผู้ไกล่เกลี่ย (Mediator) คือเจ้าหน้าที่ที่มีความรู้ทางด้านกฎหมาย คอยทำหน้าที่เป็นคนกลางในการไกล่เกลี่ยข้อพิพาทต่างๆ
๔. Reguliere toevoeging คือการขอเงินช่วยเหลือบางส่วนจากรัฐในการจ่ายค่าธรรมเนียมทนายความ (Advocaat) สำหรับคดีหรือข้อพิพาทเกี่ยวเนื่องกับจำนวนเงินหรือค่าเสียหายตั้งแต่ 500 ยูโร ขึ้นไป
เงื่อนไขของผู้มีสิทธิ์ได้รับความช่วยเหลือทางด้านกฎหมาย
ความช่วยเหลือทางด้านกฎหมายจากรัฐนี้ เป็นสวัสดิการที่รัฐจัดหาให้เฉพาะสำหรับผู้มีความจำเป็น และมีรายได้น้อยไม่เพียงพอที่จะจ่ายค่าดำเนินการทางกระบวนการยุติธรรมได้เท่านั้น โดยรัฐจะดูจาก 2 ทางคือ ๑) รายได้ และ ๒) มูลค่าของทรัพย์สินในความครอบครอง เช่น เงินออมและทรัพย์สินที่มี
๑) รายได้
ผู้ที่มีสิทธิ์ขอความช่วยเหลือทางด้านกฎหมายจากรัฐจะต้องเป็นผู้มีรายได้น้อย กล่าวคือมีรายได้ (inkomen) ไม่เกิน 26,400 ยูโรต่อปี (สำหรับคนสถานะภาพโสด) หรือ (verzamelinkomen) ไม่เกิน 37,300 ยูโรต่อปี (สำหรับคู่สมรส หรือมีคู่ครองตามกฏหมาย หรือพ่อแม่เลี้ยงเดี่ยวที่มีบุตรอายุต่ำกว่า 18 ปี อยู่ในความดูแล) โดยนับภาษีย้อนหลังภายใน 2 ปี (เรียกว่า peiljaar) — หมายถึง หากปีนี้คือปี ค.ศ. 2017 ให้นับคำนวณย้อนหลังไปอีก 2 ปี คือนับตั้งแต่ปี ค.ศ.2015 เป็นต้นมา
ถึงแม้จะได้รับเงินช่วยเหลือทางด้านกฎหมายจากรัฐ แต่จะเป็นแค่เพียงบางส่วนเท่านั้น ดังนั้นผู้ประสบปัญหาทางกฎหมายจะต้องจ่ายส่วนของตนเองสมทบด้วย โดยส่วนที่จ่ายเองสมทบนี้ จะเป็นจำนวนเงินมากน้อยแค่ไหน ขึ้นอยู่กับหลายปัจจัย เช่น รายได้ที่หาได้ในรอบ 2 ปีที่มีการนับภาษีย้อนหลัง และมูลค่าทรัพย์สินในความครอบครอง นอกจากนี้ยังขึ้นอยู่กับปัจจัยอื่นๆ เช่น มีการเปลี่ยนตัวทนายในระหว่างการดำเนินการหรือไม่ หรือกระบวนการการทำงานยาวนานกว่าปกติหรือไม่ เป็นต้น ซึ่งรายละเอียดจำนวนเงินที่ต้องจ่ายสมทบในกรณีนี้ ค่อนข้างเฉพาะตัว จึงต้องปรึกษากับทนายความ หรือผู้ไกล่เกลี่ยของตนถึงค่าใช้จ่ายเหล่านี้เป็นกรณีๆ ไป
๒) เงินออมและทรัพย์สินที่มี
ผู้ที่มีสิทธิ์ขอความช่วยเหลือทางด้านกฎหมายจากรัฐจะต้องมีคุณสมบัติตามเกณฑ์ คือมีรายได้น้อย และมีทรัพย์สินในความครอบครอง (vermogen) เช่น เงินออมทรัพย์ ไม่เกินเกณฑ์ยกเว้นภาษีด้านทรัพย์สิน (heffingsvrij vermogen) หรือไม่มีสินทรัพย์ เช่น บ้านหลังที่สอง นอกเหนือจากบ้านหลังที่ใช้อาศัยอยู่ปัจจุบัน — โดยสามารถเช็คได้จากการยื่นภาษีในส่วนของเงินออม 2 ปีภาษีย้อนหลัง(peiljaar) นับจากปีที่ประสบปัญหาทางด้านกฏหมาย — แปลว่า ถ้าปีนี้คือปี ค.ศ. 2017 ก็ให้นับคำนวณย้อนหลังไป 2 ปี คือนับตั้งแต่ปี ค.ศ.2015 เป็นต้นมา
เช่น ปี ค.ศ. 2017 ผู้ที่มีสิทธิ์ขอความช่วยเหลือทางด้านกฎหมายจากรัฐต้องมีเงินออมย้อนหลังของปี ค.ศ. 2015 ไม่เกิน 21,330 ยูโรต่อคน (ในกรณีที่ผู้ประสบปัญหาทางด้านกฎหมาย มีอายุ 65 ปีขึ้นไป อนุโลมว่า สามารถมีเงินออมย้อนหลังของปี ค.ศ. 2015 ได้ไม่เกิน 28,236 ยูโรต่อคน
*** อนึ่ง กฏหมายดัตช์มีการเปลี่ยนแปลงในรายละเอียดอยู่เสมอ ดังนั้น การคำนวณเกณฑ์รายได้ และเงินออมนี้ อาจมีการเปลี่ยนแปลงทุกปี จึงต้องอัพเดทอยู่เสมอ ***
การขอล่ามหรือนักแปล
ในกรณีที่ผู้ประสบปัญหาทางด้านกฎหมายไม่ได้ใช้ภาษาดัตช์เป็นภาษาแม่ เช่น คนไทยในเนเธอร์แลนด์ที่ถูกสามียื่นฟ้องหย่า หรือถูกไล่ออกจากงาน เป็นต้น ในกรณีนี้สามารถยื่นคำร้องเพื่อขอให้มีล่ามหรือนักแปลช่วยทำการแปลให้ได้ โดยต้องระบุไปตั้งแต่ครั้งแรกที่คุยกับทนาย หรือผู้ไกล่เกลี่ย
ทนายหรือผู้ไกล่เกลี่ยจะทำเรื่องขอให้องค์กรจัดส่งล่ามให้แก่ลูกความ ปัจจุบัน มีบริษัทล่าม 2 บริษัทที่รับผิดชอบในการหัดหาล่ามลงทะเบียนเพื่อทำงานแปลในกระบวนการยุติธรรม คือ บริษัท TVcN และ บริษัท Concorde หรือในบางกรณีทนายความอาจจะขอให้ลูกความเป็นผู้จัดหาล่ามลงทะเบียนเอง ซึ่งค่าใช้จ่ายในส่วนของล่ามและนักแปลนี้ ก็รวมอยู่ในส่วนของ Gesubsidieerde Rechtbijstand เช่นกัน
ส่วนที่ต้องจ่ายสมทบเอง
ส่วนที่ผู้ประสบปัญหาทางกฎหมายต้องจ่ายสมทบเองนั้น นอกจากจะขึ้นอยู่กับสถานภาพการสมรส รายได้ และเงินออมของตัวผู้ประสบปัญหาทางกฎหมายเองแล้ว ยังขึ้นอยู่กับประเภทของปัญหาทางด้านกฎหมายด้วย โดยมีรายละเอียดดังนี้
กรณีทั่วไป
รายได้ต่อปีของ 2 ปีภาษีย้อนหลังของสถานภาพโสด |
รายได้ต่อปีใน 2 ปีภาษีย้อนหลัง ของสถานภาพสมรส หรือเป็นพ่อแม่เลี้ยงเดี่ยว ที่มีบุตรอายุต่ำกว่า 18 ปี อยู่ในความดูแล | ส่วนที่ต้องจ่ายเองสมทบ (ปี ค.ศ. 2017) |
น้อยกว่า 18,700 ยูโร | น้อยกว่า 26,000 ยูโร | 196 ยูโร |
ระหว่าง 18,701 – 19,400 ยูโร | ระหว่าง 26,001 – 27,000 ยูโร | 360 ยูโร |
ระหว่าง 19,401 – 20,400 ยูโร | ระหว่าง 27,001 – 28,300 ยูโร | 514 ยูโร |
ระหว่าง 20,401 – 22,300 ยูโร | ระหว่าง 28,301 – 31,500 ยูโร | 669 ยูโร |
ระหว่าง 22,301 – 26,400 ยูโร | ระหว่าง 31,501 – 37,300 ยูโร | 823 ยูโร |
มากกว่า 26,400 ยูโร | มากกว่า 37,300 ยูโร | ไม่ได้รับความช่วยเหลือทางด้านกฎหมายจากรัฐ ต้องออกค่าใช้จ่ายเองทั้งหมด |
ในกรณีที่ปัญหาทางด้านกฎหมายนั้น อยู่ในกฎหมายแพ่งบุคคล และครอบครัว
รายได้ต่อปีของ 2 ปีภาษีย้อนหลังของสถานภาพโสด |
รายได้ต่อปีใน 2 ปีภาษีย้อนหลัง ของสถานภาพสมรส หรือเป็นพ่อแม่เลี้ยงเดี่ยว ที่มีบุตรอายุต่ำกว่า 18 ปี อยู่ในความดูแล |
ส่วนที่ต้องจ่ายเองสมทบ |
น้อยกว่า 18,700 ยูโร | น้อยกว่า 26,000 ยูโร | 340 ยูโร |
ระหว่าง 18,701 – 19,400 ยูโร | ระหว่าง 26,001 – 27,000 ยูโร | 412 ยูโร |
ระหว่าง 19,401 – 20,400 ยูโร | ระหว่าง 27,001 – 28,300 ยูโร | 566 ยูโร |
ระหว่าง 20,401 – 22,300 ยูโร | ระหว่าง 28,301 – 31,500 ยูโร | 720 ยูโร |
ระหว่าง 22,301 – 26,400 ยูโร | ระหว่าง 31,501 – 37,300 ยูโร | 849 ยูโร |
มากกว่า 26,400 ยูโร | มากกว่า 37,300 ยูโร | ไม่ได้รับความช่วยเหลือทางด้านกฎหมายจากรัฐ ต้องออกค่าใช้จ่ายเองทั้งหมด |
กรณีของการจ่ายค่าบริการสำหรับผู้ไกล่เกลี่ย (Mediator)
รายได้ต่อปีของ 2 ปีภาษีย้อนหลังของสถานภาพโสด |
รายได้ต่อปีใน 2 ปีภาษีย้อนหลัง ของสถานภาพสมรส หรือเป็นพ่อแม่เลี้ยงเดี่ยว ที่มีบุตรอายุต่ำกว่า 18 ปี อยู่ในความดูแล |
ส่วนที่ต้องจ่ายเองสมทบ |
น้อยกว่า 18,700 ยูโร | น้อยกว่า 26,000 ยูโร | 53 ยูโร |
ระหว่าง 18,701 – 26,400 ยูโร | ระหว่าง 26,001 – 37,300 ยูโร | 53 ยูโร (สำหรับค่าบริการไม่เกิน 4 ชั่วโมง) และ 105 ยูโร (สำหรับค่าบริการชั่วโมงที่มากกว่า 4 ชั่วโมง) |
มากกว่า 26,400 ยูโร | มากกว่า 37,300 ยูโร | ไม่ได้รับความช่วยเหลือทางด้านกฎหมายจากรัฐ ต้องออกค่าใช้จ่ายเองทั้งหมด |
กรณีที่เป็นปัญหาทางกฎหมายที่ไม่ได้ซับซ้อน ทนายความสามารถใช้เวลาไม่เกิน 3 ชั่วโมงในการให้คำปรึกษา Lichte Advies Toevoeging (LAT)
รายได้ต่อปีของ 2 ปีภาษีย้อนหลังของสถานภาพโสด |
รายได้ต่อปีใน 2 ปีภาษีย้อนหลัง ของสถานภาพสมรส หรือเป็นพ่อแม่เลี้ยงเดี่ยว ที่มีบุตรอายุต่ำกว่า 18 ปี อยู่ในความดูแล |
ส่วนที่ต้องจ่ายเองสมทบ |
น้อยกว่า 19,400 ยูโร | น้อยกว่า 27,000 ยูโร | 77 ยูโร |
ระหว่าง 19,400 – 26,400 ยูโร | ระหว่าง 27,000 – 37,300 ยูโร | 129 ยูโร |
มากกว่า 26,400 ยูโร | มากกว่า 37,300 ยูโร | ไม่ได้รับความช่วยเหลือทางด้านกฎหมายจากรัฐ ต้องออกค่าใช้จ่ายเองทั้งหมด |
กรณีที่เป็นปัญหาทางกฎหมายที่ไม่ได้ซับซ้อน ทนายความสามารถใช้เวลาไม่เกิน 3 ชั่วโมงในการให้คำปรึกษา Lichte Advies Toevoeging (LAT) และเป็นปัญหาในกฎหมายแพ่งบุคคล และครอบครัว
รายได้ต่อปีของ 2 ปีภาษีย้อนหลังของสถานภาพโสด |
รายได้ต่อปีใน 2 ปีภาษีย้อนหลัง ของสถานภาพสมรส หรือเป็นพ่อแม่เลี้ยงเดี่ยว ที่มีบุตรอายุต่ำกว่า 18 ปี อยู่ในความดูแล |
ส่วนที่ต้องจ่ายเองสมทบ |
น้อยกว่า 19,400 ยูโร | น้อยกว่า 27,000 ยูโร | 108 ยูโร |
ระหว่าง 19,400 – 26,400 ยูโร | ระหว่าง 27,000 – 37,300 ยูโร | 142 ยูโร |
มากกว่า 26,400 ยูโร | มากกว่า 37,300 ยูโร | ไม่ได้รับความช่วยเหลือทางด้านกฎหมายจากรัฐ ต้องออกค่าใช้จ่ายเองทั้งหมด |
สรุป
เมื่อประสบปัญหาทางด้านกฎหมาย หรือปัญหาที่ต้องใช้กระบวนการทางยุติธรรมตัดสิน
๑. พยายามหาทางออกด้วยดี ด้วยการเจรจากันเองทั้งสองฝ่าย
๒. หากไม่สำเร็จ ไปหา Het Juridisch Loket ใกล้บ้าน ซึ่งจะมีนักกฎหมายให้คำแนะนำว่าปัญหานี้ควรจะหาทางออกอย่างไร
๓. ไปหาทนาย หรือผู้ไกล่เกลี่ย ตามคำแนะนำของ Het Juridisch Loket
๔. ถ้ารายได้น้อย บอกให้ทนาย หรือผู้ไกล่เกลี่ยยื่นขอ Gesubsidieerde Rechtsbijstand ให้ และหากต้องการล่าม ก็ให้ระบุไปด้วย ในตั้งแต่ครั้งแรกที่พบกับทนายความ หรือผู้ไกล่เกลี่ยเลย
๕. ทนายความ หรือผู้ไกล่เกลี่ยจะดำเนินเรื่องยื่นขอ Gesubsidieerde Rechtsbijstand หรือ toevoeging ให้เรา
*** Gesubsidieerde Rechtsbijstand หรือ Toevoeging เป็นความช่วยเหลือจากรัฐในรูปแบบของเงินช่วยเหลือบางส่วนเท่านั้น มิใช่ครอบคลุมทั้งหมด — ทั้งนี้หมายความว่าคุณยังคงต้องจ่ายค่าธรรมเนียมบางส่วนด้วยตัวคุณเอง ที่เรียกว่า ค่าสมทบ หรือ eigen bijdragen ***
*** ในกรณีได้รับแบ่งทรัพย์สิน หากได้รับเกินเกณฑ์ขั้นต่ำที่รัฐกำหนด มีความเป็นไปได้สูงทีอาจต้องจ่ายค่าธรรมเนียมเอง ซึ่งเรื่องนี้จะมีการพิจารณาตามมาทีหลัง ภายหลังสิ้นสุดคดี ***