ประมวลกฎหมายอาญาที่สำคัญๆ ของประเทศเนเธอร์แลนด์
แปลและเรียบเรียงโดย ปูชิตา รักวิทย์
มาตรา 36e ประมวลกฎหมายอาญา
- การขอตรวจ สำนักงานอัยการสามารถทำได้โดยไม่ต้องขออนุญาตจากศาล การตัดสินใจว่าผู้ที่ถูกตัดสินเนื่องจากความผิดทางอาญา มีการบังคับให้วางหลักทรัพย์จนกระทั่งจ่ายเงินจำนวนหนึ่งให้แก่รัฐ ทำการยึดทรัพย์จากสิ่งที่ได้มาจากการกระทำผิดกฎหมาย
- การบังคับสามารถกระทำได้ตามวรรคแรก บุคคลใดได้ทรัพย์มาโดยกระทำความผิดมีโทษทางอาญา ถ้ามีหลักฐานพอว่าบุคคลนั้นทำความผิดจริง สามารถปรับเงินได้ซึ่งจัดอยู่ในประเภทที่ 5
- การขอตรวจ สำนักงานอัยการสามารถทำได้โดยไม่ต้องขออนุญาตจากศาล การตัดสินใจว่าผู้ที่ถูกตัดสินเนื่องจากการกระทำความผิด ซึ่งสามารถปรับเงินจัดอยู่ในประเภทที่ 5 และต่อผู้ต้องสงสัยว่ากระทำผิด ที่ถูกตรวจสอบทางการเงิน การบังคับให้วางหลักทรพย์จนกระทั่งการปรับเป็นเงินให้แก่รัฐ การยึดทรัพย์ที่ได้มาจากการกระทำผิด ทำได้ในกรณีที่การตรวจสอบพบว่าได้ทรัพย์นั้นมาโดยการประกอบกิจทุจริต ซึ่งผู้นั้นถูกตัดสินในข้อหานี้
- ผู้พิพากษาจะทำการประมาณจำนวนเงินที่ได้มาจากการประกอบทุจริต มูลค่าของสิ่งของที่ได้มาจากการประกอบทุจริตจะถูกคำนวน สามารถประมาณค่าตามมูลค่าในท้องตลาด ใช้เวลาในการตัดสินใจการขายทอดตลาดเพื่อจะได้เงินมา ผู้พิพากษาสามารถให้ผู้กระทำผิดจ่ายต่ำกว่ามูลค่าที่ได้ประมาณไว้
- ภายใต้สิ่งของ(voorwerpen )เป็นที่เข้าใจว่า ไม่ว่าจะเป็นธุรกิจหรือทรัพย์สินต่างๆ
- ในการกำหนดจำนวนเงินที่ถูกกะประมาณในทรัพย์สินที่ได้มาจากการประกอบการทุจริตนั้น ถ้ายอมรับสารภาพ จำนวนเงินก็จะลดน้อยลง
- จะใช้มาตรการใดต้องคำนึงถึงการตัดสินหลักก่อนนี้ การบังคับให้จ่ายเงินจำนวนหนึ่ง การยึดจากทรัพย์สินที่ได้มาจากการประกอบการทุจริต
- การบีบบังคับสามารถกระทำได้ตามมาตรา 577c ตามประมวลกฎหมายลักษณะการลงโทษทางอาญา โดยผู้พิพากษาเป็นผู้ออกคำสั่งสูงสุดเป็นระยะเวลา 3 ปี และบังคับใช้เป็นกฎที่ต้องปฏิบัติ
มาตรา 197 a ประมวลกฎหมายอาญา
- บุคคลใดที่ช่วยผู้อื่น ทำให้เข้ามา จนกระทั่งเดินทางเข้าในประเทศเนเธอร์แลนด์ ประเทศอื่นๆที่เป็นสมาชิกสหภาพยุโรปไอแลนด์ นอร์เวย์ หรือ รัฐที่เข้าร่วมในสนธิสัญญา ในวันที่ 15 พฤศจิกายน พ.ศ.2543 (ค.ศ.2000) แห่งมหานครนิวยอร์ค สนธิสัญญาต่อต้านการลักลอบอพยพเข้าประเทศทางบก ทางทะเล และทางอากาศ มีการเพิ่มเติมในวันที่ 15 พฤศจิกายนพ.ศ.2543 (ค.ศ.2005) แห่งมหานครนิวยอร์ค สนธิสัญญาต่อต้านการกระทำผิดลักลอบเข้าประเทศ ให้โอกาส เป็นคนกลาง หรือให้ข้อมูล ในขณะที่ผู้นั้นทราบดีว่าการเข้ามา หรือเดินทางเข้ามานั้นผิดกฎหมาย มีความผิดฐานลักลอบคนนำเข้าประเทศโดยผิดกฎหมาย มีโทษจำคุกสูงสุด 4 ปี หรือปรับเงินในประเภทที่ 5
- บุคคลใดที่ได้เงินจากการช่วยผู้อื่นให้พักอยู่ในประเทศเนเธอร์แลนด์ ประเทศอื่นๆที่เป็นสมาชิกสหภาพยุโรป ไอแลนด์ นอร์เวย์ หรือ รัฐที่กล่าวถึงในทางการฑูต หรือ บุคคลนั้นให้โอกาส เป็นคนกลาง หรือให้ข้อมูลในขณะที่ผู้นั้นทราบดีว่าการเข้ามา หรือเดินทางเข้ามานั้นผิดกฎหมาย จะถูกลงโทษจำคุกสูงสุด 4 ปี หรือปรับเงินในประเภทที่ 5
- ในกรณีที่ข้าราชการเป็นผู้กระทำวางโทษจำคุกสูงสุด 6 ปี หรือปรับเงินในประเภทที่ 5 และปลดจากหน้าที่
- ในกรณีที่บุคคลที่มีอาชีพหรือคนทั่วไปกระทำหรือร่วมมือกับบุคคลอื่นหลายๆคน วางโทษจำคุกสูงสุด 8 ปี หรือปรับเงินในประเภทที่ 5
- ในกรณีที่ทำให้ผู้อื่นหวาดกลัว ทำให้ส่วนของร่างกายได้รับบาดเจ็บสาหัสอันตรายต่อชีวิต วางโทษจำคุกสูงสุด 12 ปี
- ในกรณีทำให้ผู้อื่นเสียชีวิต วางโทษจำคุกสูงสุด 15 ปี หรือปรับเงินในประเภทที่ 5
มาตรา 140 ประมวลกฎหมายอาญา
- ผู้ที่เข้าร่วมกับองค์กรที่มีเป้าหมายในการกระทำความผิด มีโทษจำคุกสูงสุด 6 ปี หรือปรับเงินในประเภทที่ 5
- ผู้ที่มีส่วนร่วมในกิจกรรมของนิติบุคคล ซึ่ง ศาลตัดสินห้าม ไม่มี(บริษัทนี้)อยู่ แต่ยังคงทำกิจกรรมนั้นอยู่ มีโทษจำคุกสูงสุด 1 ปี หรือปรับประเภท 3
- เนื่องจากเป็นผู้ก่อตั้ง ผู้นำ คณะกรรมการ ทำให้ได้รับโทษสูงขึ้น1ใน3
- การมีส่วนในองค์กร การให้ยืมเงิน- หรือ การให้ยืมสิ่งของอื่นๆ การหาหรือรวบรวมงิน หรือ บุคคลเพื่อองค์กร
มาตรา 287 ประมวลกฎหมายอาญา
- บุคคลใดตั้งใจทำให้ผู้อื่นเสียชีวิต ความผิดฐานฆ่าโดยบันดาลโทสะ มีโทษจำคุกสูงสุด 15 ปี หรือปรับประเภทที่ 5
มาตรา 289 ประมวลกฎหมายอาญา
- บุคคลใดตั้งใจและวางแผนทำให้ผู้อื่นเสียชีวิต ทีความผิดฐานฆ่าผู้อื่น โทษจำคุกตลอดชีวิต หรือจำคุกสูงสุด 30 ปี หรือปรับประเภทที่ 5
มาตรา 317 ประมวลกฎหมายอาญา
- บุคคลใดกระทำผิดเพื่อให้ได้บางสิ่งมา โดยใช้ความรุนเรง หรือข่มขู่โดยใช้ความรุนแรงบังคับ เช่น ความผิดจากการรีดไถ โทษจำคุกสูงสุด 9 ปี หรือปรับประเภทที่ 5
- บุคคลใดที่บีบบังคับผู้อื่น จะได้รับโทษเช่นเดียวกันนี้ ดังในวรรคแรก ทำการข่มขู่บีบบังคับ
- ดังที่กำหนดไว้ในวรรคที่ 2 ที่ 3 ในมาตรา 312 การกระทำความผิด
กฎหมายการลงโทษทางอาญา
มาตรา 126 ประมวลกฎหมายอาญา
- ในกรณีสงสัยว่ามีการกระทำความผิด ซึ่งสามารถปรับเงินประเภทที่ 5 การกระทำทุจริตซึ่งทำให้ได้มาแห่งทรัพย์สิน และสามารถยื่นทำการตรวจสอบทางการเงินได้
- การตรวจสอบทางการเงินโทษทางอาญาพุ่งเป้าไปที่ผู้ต้องสงสัยที่กระทำทุจริตแล้วได้มาซึ่งทรัพย์สิน เป้าหมายคือทำการยึดทรัพย์ ตามมาตรา 36e ตามประมวลกฎหมายอาญา
มาตรา 126a ประมวลกฎหมายอาญา
- มาตรานี้เพิ่มจากมาตรา 126 การมอบฉันทะให้ทำการตรวจสอบทางการเงินโดยพนักงานสอบสวนจะแสดงหนังสือมอบฉันทะเป็นลายลักษณ์อักษร เพื่อจะได้ทราบถึงทรัพย์สินของบุคคลที่ทำการตรวจสอบ บุคคลที่ขัดขวางการตรวจสอบนี้ สามารถสั่งให้
- ก. บอกให้ข้อมูลหรือให้รายละเอียดของทรัพย์สิน ไม่ใช่รายละเอียดดังในมาตรา126nd วรรคที่2 ประโยคที่3 ทั้งประโยค
- ข. แจ้งทรัพย์สินหรือ และ ว่า ส่วนของทรัพย์ที่เขามีหรือเคยมี เคยครอบครองแก่บุคคลที่ทำการตรวจสอบทางการเงิน และแจ้งเป็นลายลักษณ์อักษรในทรัพย์สินที่ทำการยึด
มาตรา 126b ประมวลกฎหมายอาญา
- ช่วงเวลาที่มีการตรวจสอบทางการเงิน อัยการมีอำนาจ ตามมาตรา 94 โดยไม่ต้องมีการมอบฉันทะอื่นจากศาล ให้ทำการยึดทรัพย์สินตามมาตรา 94a
- ในกรณีที่อัยการปฏิบัติการตรวจสอบทางการเงิน ในกรณีจำเป็น อัยการสามารถร้องขอให้ผู้พิพากษาสอบสวนทำการยึดตรวจหา การใช้อำนาจนี้มีอำนาจสามารถทำการตรวจสอบเคร่าๆ ก่อนที่จะมีการตรวจสอบทางการเงิน และด้วยเช่นกัน
- ก. ผู้พิพากษาสอบสวนมีอำนาจในการออกคำสั่งให้ยึด มีอำนาจในการยื่นหนังสือถึงผู้ที่จะถูกตรวจสอบ ให้แสดงรายการทรัพย์สินที่ได้มาจากการประกอบการทุจริต
- ข. ผู้พิพากษาสอบสวนไม่จำเป็นด้วยตนเองต้อง ทำการตรวจสอบโดยอนุญาตให้ทนายความคดีอาญาเป็นผู้ร่วมอยู่ด้วยในการทำการตรวจสอบ
มาตรา 126c ประมวลกฎหมายอาญา
- ในกรณีจำเป็นเร่งด่วนอัยการสามารถทำการยึดทรัพย์ในแต่ละที่ อย่างเช่น ที่อยู่อาศัย โดยไม่ต้องได้รับอนุญาตจากผู้ที่อาศัยอยู่ หรือสำนักงานของบุคคล โดยอัยการมีอำนาจ ตามมาตรา 218 ในการตรวจค้นหาในกรณีสงสัยว่าทรัพย์สินดังกล่าวหรือรายละเอียด ดังในมาตรา 126a หรือ สิ่งของ ( voorwerpen ) ตามที่ปรากฏในมาตรา 94a
มาตรา 94a ประมวลกฎหมายอาญา
- ในกรณีมีการสงสัยว่ามีการกระทำผิด สามารถวางโทษปรับเงินประเภทที่ 5 สามารถทำการยึดทรัพย์สินหรือทำการอายัติ
- ในกรณีมีการสงสัย หรือมีการตัดสินว่ามีการทำผิด มีการวางโทษปรับเงินในประเภทที่ 5 สามารถทำการยึดทรัพย์สินหรือทำการอายัติ ถ้ามีการกระทำผิดจริง บุคคลนั้นมีหน้าที่ต้องจ่ายเงินจำนวนหนึ่งให้แก่รัฐ เป็นการยึดสิ่งที่ได้มาจากการประกอบการทุจริต
- ทรัพย์สินในครอบครองของบุคคลที่กล่าวถึงในวรรคแรก สามารถวางโทษปรับเงิน หรือบุคคลที่หมายถึงในวรรคที่ 2ทรัพย์สินที่ได้มาจากการประกอบการทุจริต สามารถถูกยึดได้ในกรณี
- ก. เป็นทรัพย์สินที่ได้มาจากการประกอบการทุจริต
- ข. มีหลักฐานพอเพียงว่าทรัพย์สินไปอยู่ในครอบครองของผู้อื่นโดยการรขายทรัพย์สินนี้ มีความยากลำบากหรือ การขัดขวาง และ
- ค. บุคคลอื่นในช่วงที่มีการครอบครองนั้นทราบว่าทรัพย์สินนั้นได้มาจากการกระทำทุจริต
- ในกรณีที่กล่าวถึงในวรรคที่3 สามารถยึดทรัพย์สินจากบุคคลอื่นที่เข้ามาเกี่ยวข้องโดยที่ผู้นั้นครอบครองทรัพย์สินอยู่
- ภายใต้คำว่าทรัพย์สินเป็นที่เข้าใจว่า ธุระกิจต่างๆ และหุ้น พันธบัตร
มาตรา 126nc ประมวลกฎหมายอาญา
- ในกรณีมีการสงสัยว่ามีการกระทำทุจริต เพื่อประโยชน์ในการตรวจสอบของบุคคลนี้ พนักงานสอบสวนสามารถทำการบันทึกรายละเอียดของบุคคล รายละเอียดบัตรประจำตัวซึ่งบุคคลนี้ต้องให้ความร่วมมือ
- ภายใต้รายละเอียดบัตรประจำตัวหมายถึง
- ก. ชื่อ ที่อยู่ ที่อาศัย และที่อยู่สำหรับส่งไปรษณีย์
- ข. วันเดือนปีเกิด และ เพศ
- ค. หมายเลขทางธุระการ
- ง. ในกรณีเป็นนิติบุคคล มีรายละเอียดสถานที่ หมายถึงในข้อ ก และ ข ชื่อ ที่อยู่ ที่อยู่สำหรับส่งไปรษณีย์ชนิดของบริษัทว่าเป็น ห้างหุ้นส่วน บริษัทจำกัด หรือบริษัทมหาชน เป็นต้น และสถานที่ที่จดทะเบียนทางการค้า
- การขอรายละเอียดส่วนบุคคลที่เกี่ยวข้อง ไม่รวมถึง ศาสนา ความเชื่อ สีผิว ความคิดเห็นทางการเมือง สุขภาพ รสนิยมทางเพศ หรือ การเป็นสมาชิกของสมาคม ที่บุคคลนั้นมี
- การขอในวรรคแรกต้องทำเป็นลายลักษณ์อักษร และแจ้งข่าว
- ก. ระบุว่าเป็นรายละเอียดของบุคคลที่เกี่ยวข้อง
- ข. รายละเอียดประจำตัวถูกขอ
- ค. ช่วงเวลาและวิธีที่ให้รายละเอียด
- ง. เหตุที่ทำให้ต้องขอรายละเอียดประจำตัว
มาตรา 126nd ประมวลกฎหมายอาญา
- ในกรณีมีการสงสัยว่ามีการกระทำทุจริต ดังที่ปรากฏในมาตรา 67 วรรคแรก เพื่อประโยชน์ในการตรวจสอบ บุคคลที่คาดว่ากระทำผิด บุคลลผู้นี้ต้องให้รายละเอียดแก่อัยการ
- การขอที่หมายถึงในวรรคแรก ไม่สามารถพุ่งไปที่ผู้ต้องสงสัย มาตรา 96a วรรคที่3 การขอต้องไม่ไม่รวมถึง ศาสนา ความเชื่อ สีผิว ความคิดเห็นทางการเมือง สุขภาพ รสนิยมทางเพศหรือ การเป็นสมาชิกของสมาคม ที่บุคคลนั้นมี
- การขอในวรรคแรกต้องทำเป็นลายลักษณ์อักษร และแจ้งข่าว
- ก. ในกรณีเป็นที่รู้จัก ชื่อ หรือสิ่งอื่น ให้ระบุอย่างละเอียดในรายละเอียดของบุคคลที่ถูกขอ
- ข. ระบุอย่างละเอียดที่สุดในรายละเอียดที่ให้มา
- ค. เหตุที่ทำให้ต้องขอรายละเอียดประจำตัว
มาตรา 2 กฎหมายฝิ่น
ห้ามมีสิ่งตามปรากฏในรายการที่1 ในกฎหมายการครอบครอง ในมาตรา 3a วรรคที่ 5 :
- ก. ห้ามนำเข้ามาภายในหรือภายนอกบนพื้นดินประเทศเนเธอร์แลนด์
- ข. ห้ามมีการเตรียม การเติม การจำหน่าย การนำส่ง การให้ หรือการขนส่ง
- ค. ห้ามมีไว้ในครอบครอง
- ง. ห้ามทำ ห้ามผลิต
มาตรา 10 กฎหมายฝิ่น
- บุคคลที่ทำการค้าฝิ่นกระทำผิด :
- ก. หนึ่งในมาตรา 2 มาตรา 3b วรรคแรก หรือ หนึ่งในมาตรา 4 วรรคที่3 ห้ามกระทำ
- ข. มาตรา 3c วรรคที่2 หรือ มาตรา 4 วรรคแรกหรือวรรคที่ 2 ต้องปฏิบัติ
- ค. มาตรา 8a วรรคแรก ได้รับการยกเว้นในข้อห้ามบัญญัติโทษสูงสุด 6 เดือน หรือ ปรับในประเภทที่ 4 บุคคลใดตั้งใจทำเพื่อการค้า กระทำผิดตามมาตรา 2 อนุมาตรา c ในมาตรา 3b หรือในมาตรา 4 วรรคที่ 3
- ห้ามทำ บัญญัติโทษจำคุกสูงสุด 4 ปี หรือ ปรับในประเภทที่ 5
- บุคคลใดตั้งใจทำเพื่อการค้า กระทำผิดตามมาตรา 2 อนุมาตรา B หรือ D ห้ามกระทำ บัญญัติโทษจำคุกสูงสุด 8 ปี หรือ ปรับในประเภทที่ 5
- บุคคลใดตั้งใจทำเพื่อการค้า กระทำผิดตามมาตรา 2 อนุมาตรา A ห้ามกระทำ บัญญัติโทษจำคุกสูงสุด 12 ปี หรือ ปรับในประเภทที่ 5
- ในกรณีที่มีจำนวนเล็กน้อยเพื่อไว้ใช้ส่วนตัว บัญญัติโทษจำคุกสูงสุด 1 ปี หรือ ปรับในประเภทที่ 3
มาตรา 10a กฎหมายฝิ่น
- บุคคลใดตามวรรคที่ 3 หรือวรรคที่ 4 มาตรา 10 ในการเตรียม หรือกระตุ้น
- 10 ผู้ใดพยายาม เคลื่อนไหว เพื่อที่จะทำ กระทำ ร่วมทำ หรือล่อลวง เพื่อให้ได้รับความช่วยเหลือ ให้มีโอกาส สื่อกลาง หรือให้ข้อมูล
- 20 ให้โอกาส เป็นสื่อกลาง ให้ข้อมูลตลอดจนกระทำ โดยตนเอง หรือให้ผู้อื่น พยายามให้
- 30 ทรัพย์สินต่างๆ สื่อกลางที่ใช้ 6 ปี หรือ ปรับในประเภทที่ 5
- ไม่มีโทษ ถ้าบุคคล ข้ออธิบายในวรรคแรก นำเข้ามาภายในหรือภายนอกบนพื้นดินประเทศเนเธอร์แลนด์ เป็นจำนวนเล็กน้อยเพื่อไว้ใช้ส่วนตัว
กฎหมายอาวุธ และกระสุน
มาตรา 26 กฎหมายอาวุธ และกระสุน
- ห้ามมีอาวุธหรือกระสุนประเภทที่ 2 และ 3 มีไว้ในครอบครอง
- ในวรรคแรก ยกเว้นสำหรับบุคคลผู้มีหรือถือ :
- ก. การอนุญาตตามมาตรา 28 วรรคแรกของกฎหมายอนุญาต
- ข. ใบอนุญาตล่าสัตว์ ในกฎหมายล่าสัตว์ เกี่ยวข้องกับการล่า อาวุธและกระสุน ประเภทที่ 3 ในใบอนุญาตล่าสัตว์ ได้อธิบายไว้
- รัฐมนตรีของเราสามารถให้อนุญาต ในข้อห้ามในวรรคแรกของกฎหมายอาวุธและกระสุน ประเภท 3 เกี่ยวข้องกับการกับผู้ล่าสัตว์ และ การยิงปืนเพื่อการกีฬา ที่มีไว้ในที่อยู่ถาวร-หรือ ที่พักภายนอกประเทศเนเธอร์แลนด์
- รัฐมนตรีของเรา เกี่ยวข้องกับบุคคลในวรรคที่2 สามารถให้ได้ดังนื้
- ก. มีสุขภาพดี และมีทักษะในการใช้อาวุธ
- ข. มีความรู้ในเรื่องอาวุธ และ
- ค. มีจำนวนอาวุธจำนวนสูงสุดเท่าที่มีได้
- ห้ามบุคคลที่มีอายุยังไม่ถึง 18 ปี มีอาวุธประเภท 4 ไว้ในครอบครอง
- รัฐมนตรีของสามารถจัดการให้ยกเว้นข้อห้ามในกรณี ฝึกยิงปืนเพื่อการกีฬา (สมาคมยิงปืน)